fbpx

Drapery Vs Clothing Fabrics

ทำไมต้องเลือกใช้ผ้าสำหรับทำผ้าม่านโดยเฉพาะ? ผ้าทั่วไปใช้แทนกันไม่ได้เหรอ?

ในสายตาของคนทั่วไป ผ้าก็คือผ้า ไม่ว่าจะเป็นผ้าสำหรับตัดเย็บเสื้อผ้าหรือผ้าสำหรับทำม่าน แต่ในความเป็นจริง ผ้าสำหรับทำม่านและผ้าตัดเสื้อผ้ามีความแตกต่างกันในหลายมิติ ทั้งเรื่องคุณสมบัติทางเทคนิค ลักษณะโครงสร้างของเนื้อผ้า รวมถึงจุดประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งเราจะอธิบายโดยละเอียดในบทความนี้ เพื่อให้คุณเข้าใจว่าเหตุใดจึงไม่ควรใช้ผ้าตัดเสื้อทั่วไปมาทำม่าน หรือในทางกลับกัน

ความแตกต่างด้าน “น้ำหนักของผ้า”

น้ำหนักของผ้า gsm = grams per square meter อ่านบทความเรื่องนี้

ประเภทผ้าน้ำหนักเฉลี่ย (gsm)คำอธิบาย
ผ้าม่านโปร่ง
Sheer
50–90 gsmเบามาก โปร่งแสง เน้นการกรองแสงและพรางสายตา
ผ้าม่านทึบ (ทั่วไป)
Curtain
150–300 gsmหนากว่าผ้าเสื้อผ้า เพื่อกันแสงและเพิ่มความเป็นส่วนตัว
ผ้าม่านกันแสง
Dim-out Curtain
250-350 gsmหนากว่าผ้าม่านปกติ มีการทอสอดเส้นได้สีดำเพื่อเพิ่มความสามารถในการกันแสง
ผ้าม่านทึบแสง
Blackout Curtain
300–450 gsmหนาและหนักกว่าผ้าม่านปกติ มีชั้นเคลือบหรือซ้อนหลายชั้นเพื่อกันแสง 100%
ผ้าเสื้อ (ทั่วไป)
Clothing
100–200 gsmน้ำหนักขึ้นอยู่กับชนิดผ้า (เช่น คอตตอน, โพลีเอสเตอร์, ลินินฯลฯ)

ความหนา และหน้าผ้ากว้าง

ผ้าสำหรับทำม่านมักจะมีความหนาและหน้าผ้ากว้าง ตั้งแต่ 135 – 320 ซม. ซึ่งช่วยลดรอยต่อระหว่างผืนเมื่อเย็บม่าน ทำให้ม่านดูเรียบ สวย และประหยัดแรงในการตัดเย็บ ในขณะที่ผ้าตัดเสื้อส่วนใหญ่มักมีหน้ากว้างแค่ 100-150 ซม. และความหนาก็ไม่มากพอที่จะบังแสงหรือให้ความเป็นส่วนตัว

คุณสมบัติในการกันแสง

ยกตัวอย่าง ผ้า Dimout: สามารถกันแสงได้ประมาณ 80-90% เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการแสงลดน้อยลง แต่ไม่ต้องมืดสนิท เช่น ห้องนั่งเล่นหรือห้องทำงาน รวมไปถึงผ้า Blackout: กันแสงได้เกือบ 100% เหมาะสำหรับห้องนอนหรือห้องโฮมเธียเตอร์ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ไม่มีในผ้าตัดเสื้อทั่วไป

คุณสมบัติของผ้าม่านและเสื้อผ้าทั่วไป

หัวข้อผ้าม่านเสื้อผ้าทั่วไป
วัตถุประสงค์หลักตกแต่ง, กรองแสง, เพิ่มความเป็นส่วนตัว, ควบคุมอุณหภูมิห้องสวมใส่เพื่อความสบาย, ความงาม, การปกป้องร่างกาย
กันแสง / กรองแสง
Light blocking / Light filtering
มีทั้งแบบทึบแสงและโปร่งแสง เพื่อกรองแสงหรือกันแสง UVบางชนิดมีการพัฒนาให้กัน UV เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด
กันความร้อน
Thermal insulation
ผ้าม่านช่วยลดความร้อนจากแสงแดดบางชนิดช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกาย เพื่อให้ “ใส่แล้วเย็นสบาย”
กันเสียง
Sound absorption / Acoustic insulation
ผ้าหนาอาจช่วยดูดซับเสียงได้เล็กน้อย
ความปลอดภัย (กันไฟลาม)
Flame retardant 
บางชนิดเคลือบสารกันไฟลาม ใช้ในอาคารสูงหรือสาธารณะ
การระบายอากาศ
Breathability
ม่านโปร่งเพื่อให้แสงและอากาศถ่ายเทเป็นจุดเด่นสำคัญ เช่น ผ้าตาข่าย ผ้าทอโปร่ง เพื่อระบายอากาศเวลาสวมใส่
การแห้งเร็ว / ซับเหงื่อ
Moisture-wicking / Quick-drying
ผ้าสมัยใหม่พัฒนาให้แห้งเร็ว ซึมซับเหงื่อได้ดี เช่น ผ้า activewear
กันยับ
Wrinkle-resistant
ผ้าหลายแบบกันยับ Wrinkle-free หรือไม่ต้องรีด เช่น ผ้า polyester, spandex
ให้ความอบอุ่น / เย็นสบาย
Thermal comfort / Cooling effect
ช่วยลดอุณหภูมิในห้องจากแสงแดดเสื้อผ้าพัฒนาให้เหมาะกับฤดูกาล เช่น ผ้าใยธรรมชาติในหน้าร้อน หรือผ้าหน้าในฤดูหนาว
ความงาม / ลวดลาย
Aesthetic / Pattern design
ลวดลายเพื่อเสริมบรรยากาศห้อง สื่อรสนิยมของเจ้าของบ้านลวดลาย สี และดีไซน์เพื่อแสดงบุคลิก ความชอบ และแฟชั่น

แล้วใช้ผ้าตัดเสื้อมาทำม่านได้ไหม?

ตอบ: ทำได้ แต่อาจต้องยอมรับว่า:

  • ประสิทธิภาพการกันแสงจะน้อย
  • ต้องเย็บซับหลายชั้นเพื่อให้หนาพอ ซึ่งสิ้นเปลือง
  • อายุการใช้งานสั้น เพราะผ้าตัดเสื้อไม่ทนแดดเท่าผ้าม่าน

แล้วถ้านำ “ผ้าม่านไปตัดเสื้อ” ล่ะ? ได้ไหม?

ตอบ: โดยทั่วไป “ไม่เหมาะสม” เพราะผ้าม่านมีความแข็ง หนา หนัก ระบายอากาศได้น้อย ใส่ไม่สบาย และอาจระคายเคืองผิว โดยเฉพาะผ้า Blackout ที่มีชั้นเคลือบอยู่ด้านหลัง

จากที่กล่าวมาแม้ผ้าจะดูเหมือนกัน แต่เบื้องหลังการออกแบบและวัตถุประสงค์การใช้งานนั้นต่างกันอย่างมาก การเลือกใช้ผ้าสำหรับทำม่านโดยเฉพาะจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ทั้งในด้านความสวยงาม ฟังก์ชัน และอายุการใช้งาน

หากต้องการผ้าม่านที่ดูดี มีคุณภาพ และใช้งานได้ยาวนาน ควรเลือกใช้แบรนด์ผ้าม่านมีที่คุณภาพอย่าง NITAS TESSILE ที่เราได้คัดสรร นำเข้ามาจากทั่วโลก เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสได้ใช้ผ้าม่านที่จะทำให้บ้านของคุณดูสมบูรณ์แบบในทุกมิติ