fbpx

มาสร้างโรงหนังในบ้านด้วยผ้าม่านกัน

นอกจากผ้าม่านที่ปกติแล้วเราจะใช้เพื่อการกันแสง กันความร้อนจากแสงแดดแล้ว หรือกันการมองเห็น หรือกระทั่งเสริมบรรยากาศของห้องแล้ว ผ้าม่านยังสามารถกันเสียง( ดูดซับเสียง) ได้อีกด้วยนะ แล้วเราสามารถนำผ้าม่านไปใช้กับห้องไหน ได้บางไปดูกันเลย

ใช้ผ้าม่านกับห้องซ้อมดนตรี

ใช้ผ้าม่านสามารถกันเสียงในห้องซ้อมดนตรีได้ดีแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความหนาและความหนาแน่นของผ้าม่าน ประเภทของผ้า ขนาดและรูปร่างของห้อง และความดังของเสียงที่เกิดขึ้น .

โดยทั่วไปแล้ว ผ้าม่านเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถเก็บเสียงได้ดีพอสำหรับห้องซ้อมดนตรี อย่างไรก็ตาม ผ้าม่านสามารถช่วยดูดซับ และกระจายคลื่นเสียง และสามรถดเสียงสะท้อน เพื่อให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการกันเสัยงในห้องซ้อมดนตรี จำเป็นต้องใช้วัสดุเสริมร่วมกัน เช่น แผงอะคูสติก โฟมเก็บเสียง และฉนวนกันเสียง สิ่งสำคัญคือต้องอุดช่องว่างต่างๆ ในผนัง เพดาน และพื้นเพื่อป้องกันไม่ให้เสียงรั่วเข้าหรือออกให้หมดด้วย


ใช้ผ้าม่านกับห้องโฮมเธียมเตอร์

ผ้าม่านเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการลดเสียงสะท้อนและเสียงก้องในห้องโฮมเธียเตอร์ เนื่องจากช่วยดูดซับคลื่นเสียงและป้องกันไม่ให้สะท้อนออกจากพื้นผิวที่แข็ง เมื่อใช้ร่วมกับวัสดุดูดซับเสียงอื่นๆ เช่น แผงอะคูสติก หรือแผ่นโฟม ผ้าม่านเป็นวิธีแบบง่ายๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเสียงของห้องโฮมเธียเตอร์ของคุณ

ผ้าม่านสำหรับห้องโฮมเธียเตอร์ ควรเลือกผ้าที่มีการทอแน่น หนา และฟู เพื่อช่วยดูดซับเสียงได้ดีกว่าผ้าที่บางและน้ำหนักเบา เช่น ผ้าม่านกำมะหยี่ Velvet และ ผ้าที่ทอจากด้านขน หรือ Chenille ซึ่งด้วยคุณลักษณะของตัวเนื้อผ้าเองที่มีความหนา กว่าผ้าชนิดอื่นๆ และยังมีขนเล็กๆ เรียนตัวกันอย่างหนาแน่น รวมทั้งการตัดเย็บเข้าเป็นลอนๆ จากที่กล่าวมาด้วยคุณลักษณะเหล่านี้ผ้ากำมะหยี่จึงสามารถช่วยลดการสะท้อนของเสียงได้ดี เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดมักจะแขวนปิดอีกชั้นในส่วนของผนังผนังที่เรียบๆ ทั้งหมด รวมถึงหน้าต่าง แม้แต่หน้าประตูเข้าออก เพื่อช่วยดูดซับคลื่นเสียง และลดเสียงสะท้อน แม้ว่าผ้าม่านเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถป้องกันเสียงได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากเท่ากับการกรุผนังซับเสียงใหม่ ประหยัดค่าใช้จ่าย มีประสิทธิภาพในการสร้างประสบการณ์การดูหนัง ฟังเพลงให้มีอรรถรส และสนุกสนานยิ่งขึ้น

  1. Reflection (การสะท้อน): เมื่อเสียงชนกับพื้นผิวหรือวัตถุต่างๆ บางส่วนของเสียงจะสะท้อนกลับมาเป็นคลื่นเสียงและเกิดเป็นเสียงสะท้อน โดยการสะท้อนจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการสะท้อนของวัตถุและมุมเข้าชนของเสียง
  2. Absorption (การดูดซับ): เมื่อเสียงชนกับวัตถุบางส่วนของเสียงจะถูกดูดซับเข้าไปบางส่วน และสะท้อนออกมาบางส่วน การดูดซับเสียงจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการดูดซึมของวัตถุและความถี่ของเสียง
  3. Diffusion (การกระจาย): คือการกระจายเสียงโดยที่เสียงไม่ไปตรงเป้าหมาย แต่กระจายไปทั่วทั้งห้องหรือพื้นที่ โดยการกระจายจะเกิดจากการใช้วัตถุหรือผิวที่ไม่เป็นระเบียบหรือไม่มีลักษณะการสะท้อนหรือดูดซึมเสียง

อ่านเรื่อง ผ้าม่านกำมะหยี่ Velvet เพิ่มเติม