โชว์ผ้าม่านเรียบ Plain Curtain Display | Curtain: 10529 NEAT -124/1 LINEN Curtain: 10759 SILKLOOK -104 SAND Dual Purpose: 30065 CABRERA -101 CREAM Dual Purpose: 30066 PARADISO -101 CREAM Dual Purpose: 30067 ORDESA -101 CREAM Dual Purpose: 30068 BASILICA -101 CREAM Dual Purpose: 30069 PERITO -101 CREAM Curtain: 40003 DOMACE -104 OXFORD TAN Curtain: 40008 LHASA -102 LINEN Curtain: 40021 TIMELESS -103 BROWN Curtain: 40022 SUPER RICH -103 BEIGE Curtain: 40023 COCOON -101 CREAM Curtain: 40030 CREEK -101 LINEN Dual Purpose: 40042 CHARLOTTE -102 YELLOW Curtain: 40043 TIMOTHY -102 BROWN Curtain: 40044 LILIBET -102 BEIGE |
โชว์ผ้าม่านมีลวดลาย Design Curtain Display | Curtain: 10485 KENSINGTON -104 BROWN Curtain: 10487 KNIGHTSBRIDGE -102 BEIGE Curtain: 10489 KNIGHTSBRIDGE -101 WHITE Curtain: 40010 CHARM -101 WHITE Curtain: 40012 PEONE -101 CREAM Curtain: 40020 BAROQUE -104 GREY Curtain: 40024 CATHERINE -102 CREAM Curtain: 40032 ANTOINE -101 CREAM Curtain: 40033 CHRISTIAN -101 CREAM Curtain: 40034 PHILIP -101 LIGHT GREY Curtain: 40035 ANDREW -101 WHITE Curtain: 40038 BEATRICE -101 BROWN Curtain: 40039 SARAH -101 BROWN Curtain: 40040 SALOLA -101 LIGHT GREY |
โชว์ผ้าม่านกันแสง Dim-out Display | Dim-out: 10816 MUNOZ -103 BEIGE Dim-out: 80036 LUKE -101 LIGHT BROWN Dim-out: 80037 JEDI -101 LIGHT BROWN Dim-out: 80038 ANAKIN -101 BROWN Dim-out: 80039 SKYWALKER -106 BROWN Dim-out: 80040 OBIWAN -101 LIGHT BROWN Dim-out: 80041 KENOBI -103 GREY Dim-out: 80048 PALPATINE -101 TAN Dim-out: 80051 THE MOON FALL -103 BEIGE |
โชว์ผ้าม่านกันแสงหน้ากว้าง Wide width Dim-out Display | Wide width Dim-out: 80008 BUIO -101/1 BEIGE Wide width Dim-out: 80010 RAPHAEL -105 GREY Wide width Dim-out: 80018 ANGELO -106 LIGHT GREY Wide width Dim-out: 80019 LEONARDO -106/1 LIGHT GREY Wide width Dim-out: 80020 DONATELLO -104 SILVER Wide width Dim-out: 80021 PICASSO -103/1 BROWN Wide width Dim-out: 80025 ROBERTO -101 LIGHT GREY Wide width Dim-out: 80026 BERNADI -101 BEIGE Wide width Dim-out: 80043 ORDER -106 DARK GREY Wide width Dim-out: 80044 AMIDALA -102 LIGHT GREY Wide width Dim-out: 80045 KYLOREN -104 GREY Wide width Dim-out: 80050 PLEASURE -108 GREY |
โชว์ผ้าม่านโปร่ง Sheer Display | Sheer: 90007 CASTLE -101 CREAM Sheer: 90015 WINERY -101 CREAM Sheer: 90024 CABERNET -101 WHITE Sheer: 90025 SPARKLING WINE -101 WHITE Sheer: 90026 CHAMPAGNE -101 WHITE Sheer: 90029 PORT WINE -101 WHITE Sheer: 90030 GRANMONTE -101 WHITE Sheer: 90031 GRAPES HOUSE -101 WHITE Sheer: 90032 SILVERLAKE -101 WHITE Sheer: 90033 BRANDY -101 LIGHT BEIGE Sheer: 90034 BRUNELLO -101 WHITE Sheer: 90038 RAINA -102 OFF-WHITE Sheer: 90042 MARTINI -101 LIGHT GREY Sheer: 90043 MAITAI -101 CREAM Sheer: 90044 MOCKTAILS -101 WHITE Sheer: 90045 MOJITO -101 OFF-WHITE |
โชว์ผ้าเอาท์ดอร์ Outdoor Fabrics Display | Outdoor: 30070 ISTANBUL -101 WHITE Outdoor: 30070 ISTANBUL -109 DARK BLUE Outdoor: 30071 GALATA -101 LIGHT GREY Outdoor: 30071 GALATA -106 DARK BLUE Outdoor: 30072 TOPKAPI -101 LIGHT GREY Outdoor: 30072 TOPKAPI -106 DARK BLUE Outdoor: 30073 BOSPHORUS -103 DARK BLUE |
โชว์ผ้าม่านระบายอากาศ Air flow Curtain Display | Curtain: 10529 NEAT -125/1 WHITE Sheer: 90019 BRICKWORK -101 WHITE Sheer: 90039 HOSPITAL SPA -101 CREAM |
ดิสเพย์ 1 Display 1 | Sheer: 90027 SHIRAZ -103 LINEN Dual Purpose: 40048 LIVE STREAM -101 Dual Purpose: 40047 WONDER FRUIT -101 |
ดิสเพย์ 2 Display 2 | Wide Width Dim-out: 80042 FORCE -102 LIGHT BROWN Sheer: 90023 CHARDONNAY -102 CREAM |
ดิสเพย์ 3 Display 3 | Sheer: 90028 VIN SANTO -102 BEIGE Sheer: 90006 CHATEAU -101 WHITE Blackout: 80049 DARTH VADER -103 Blackout: 80031 STARLESS -101 |
ดิสเพย์ 4 Display 4 | Dual Purpose: 40042 CHARLOTTE -102 YELLOW |
ดิสเพย์ 5 Display 5 | Dual Purpose: 30030 NOUVEAU -110 BLACK |
Inherent FR เกิดมาก็กันไฟเลย
Flame Retardant Fabrics หรือผ้ากันไฟลาม คือผ้าที่มีการปรับปรุงเพื่อให้มีคุณสมบัติที่สามารถต้านทานการลุกลามของไฟได้ โดยในเชิงเคมีและกระบวนการผลิต ผ้ากันไฟลามสามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทหลัก ๆ คือ
- Inherent Flame Retardant (Inherent FR) Fibers
- Treated Flame Retardant (Treated FR) Fabrics
1. Inherent Flame Retardant (Inherent FR) Fibers
เส้นใยที่มีคุณสมบัติกันไฟตั้งแต่ต้น หรือที่เรียกว่า Inherent FR Fiber เป็นเส้นใยที่มีความต้านทานต่อเปลวไฟภายในโครงสร้างของมันเอง โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการเคลือบสารเพิ่มเติม สารต้านไฟลามจะถูกผสมกับเมล็ดพลาสติกหรือโพลีเมอร์ก่อนจะหลอมละลายและฉีดออกมาเป็นเส้นใย ทำให้เส้นใยเหล่านี้มีคุณสมบัติกันไฟตั้งแต่การผลิต ตัวอย่างเส้นใยที่มีคุณสมบัติ Inherent FR เช่น อะรามิด (Aramid) และโมดาคริลิก (Modacrylic) ซึ่งมีประสิทธิภาพการกันไฟที่ดีกว่าเส้นใย FR ทั่วไป
ผ้าที่มีคุณสมบัติกันไฟลามโดยทั่วไปมักจะมีประสิทธิภาพคงอยู่ไม่เกิน 5 ครั้งในการซัก เมื่อซักมากกว่า 5 ครั้ง ประสิทธิภาพการกันไฟจะลดลงเรื่อย ๆ แต่สำหรับผ้าที่ผลิตจากเส้นใย Inherent FR Fiber จะคงคุณสมบัติกันไฟไม่ลดลงแม้จะผ่านการซักหลายครั้ง เนื่องจากคุณสมบัติการกันไฟฝังอยู่ในตัวเส้นใยเองตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต
ข้อดี: คุณสมบัติการกันไฟคงที่และไม่ลดประสิทธิภาพลง แม้จะผ่านการซักหรือใช้งานหลายครั้ง, ปลอดภัยกว่าเนื่องจากไม่มีสารเคลือบเพิ่มเติมที่อาจหลุดออกมาได้
สามารถสังเกตุว่าผ้าตัวใดของนิทัสมีคุณสมบัติ Inherent Flame Retardant จาก
2. Treated Flame Retardant (Treated FR) Fabrics
ผ้าที่มีคุณสมบัติ FR fiber หรือ “Flame Retardant fiber” เป็นเส้นใยที่มีความต้านทานต่อเปลวไฟ โดยทั่วไปผลิตจากวัสดุต่างๆ เช่น พอลีเอสเตอร์ (Polyester) และอะรามิด (Aramid) ผ้ากันไฟลามหมายถึงเมื่อสัมผัสกับเปลวไฟแล้ว ผ้าจะไม่ลุกลามต่อเนื่อง แต่ไม่ได้หมายความว่าไฟที่ลุกลามจากแหล่งอื่นจะไม่ทำให้ผ้าติดไฟ เพียงแค่เมื่อมีจุดกำเนิดไฟมาสัมผัส ผ้าจะไม่เป็นต้นเหตุให้ไฟลุกลามต่อไป
ผ้าที่ทำจากเส้นใยทั่วไป เช่น โพลีเอสเตอร์ หรือไนลอน สามารถผ่านการเคลือบสารกันไฟ (flame retardant chemicals) ในขั้นตอนการทำสำเร็จผ้า (finishing process) กระบวนการผลิตนี้จะทำโดยการชุบหรือพ่นสารเคมีที่มีคุณสมบัติการกันไฟ จากนั้นผ้าจะถูกอบหรือทำให้แห้งเพื่อให้สารเคลือบติดกับเส้นใย สารเคมีที่ใช้ เช่น สารฟอสเฟต (Phosphate) หรือสารโบรมีน (Bromine) ซึ่งสามารถลดการลุกลามของไฟได้
- ข้อดี: สามารถผลิตผ้ากันไฟจากเส้นใยสังเคราะห์ได้หลากหลายชนิด, กระบวนการผลิตไม่ซับซ้อนเท่าเส้นใย Inherent FR
- ข้อเสีย: คุณสมบัติการกันไฟอาจลดลงหลังการซักหลายครั้ง หรือการใช้งานเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากสารเคลือบอาจหลุดลอกออก
สามารถสังเกตุว่าผ้าตัวใดของนิทัสมีคุณสมบัติ Flame Retardant จาก
อย่างไรก็ตามผ้าที่มีคุณสมบัติกันไฟลาม เราก็สามารถเชื่อมั่นในคุณสมบัตินั้นได้ พร้อมผลการทดสอบ อันเป็นที่หน้าเชื่อถือในระดับสากล เช่น NFPA 701, EN 13773 เป็นต้น
NFPA 701
NFPA 701 คือมาตรฐานการทดสอบการลามไฟของสิ่งทอที่ใช้ในอาคารที่ออกโดย National Fire Protection Association (NFPA) หรือสมาคมป้องกันอัคคีภัยแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา มาตรฐานนี้กำหนดวิธีการทดสอบและเกณฑ์การยอมรับสำหรับวัสดุสิ่งทอที่ใช้ในสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น ผ้าม่าน, ผ้าคลุมเฟอร์นิเจอร์, และสิ่งทออื่นๆ ที่อาจมีการติดตั้งหรือใช้งานในอาคาร
NFPA 701 มีสองวิธีการทดสอบหลัก:
- Test Method 1 (Method 1): ใช้สำหรับการทดสอบวัสดุสิ่งทอที่มีน้ำหนักเบาและวัสดุที่ใช้ในสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น ผ้าบาง ๆ และวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งงานแสดงสินค้าหรืออีเวนท์
- Test Method 2 (Method 2): ใช้สำหรับการทดสอบวัสดุสิ่งทอที่มีน้ำหนักมากกว่าและวัสดุที่ใช้ในภายในอาคาร เช่น ผ้าม่านหนา ๆ และวัสดุที่ใช้ในโรงแรมหรือโรงละคร
ผลการทดสอบตามมาตรฐาน NFPA 701 จะระบุว่าวัสดุสิ่งทอนั้นผ่านหรือไม่ผ่านเกณฑ์การลามไฟที่กำหนด ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการเลือกใช้งานวัสดุในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความปลอดภัยจากอัคคีภัย
EN 13773
EN 13773 “Textiles and textile products – Curtains and drapes – Flammability classification” มาตรฐานยุโรปกำหนดวิธีการทดสอบและการจัดประเภทความสามารถในการต้านทานการลามไฟของผ้าม่านและผ้าที่ใช้ในงานตกแต่งภายในอาคาร เช่น ผ้าม่านและผ้าคลุมต่าง ๆ
วิธีการทดสอบ: มาตรฐานนี้กำหนดวิธีการทดสอบความสามารถในการต้านทานไฟของวัสดุอยู่ในท่าตั้งฉาก หลังจากการสัมผัสกับแหล่งไฟ
NF P92-507
NF P92-507 “Fire classification of construction products and building elements – Part 5: Classification using data from external fire exposure to roofs tests” เป็นมาตรฐานของฝรั่งเศสที่กำหนดวิธีการทดสอบความสามารถในการต้านทานไฟของวัสดุสิ่งทอที่ใช้ในการตกแต่งภายในอาคาร มาตรฐานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดระบบการทดสอบและการจัดประเภทวัสดุต้านทานไฟในฝรั่งเศส โดยมีการจัดระดับจาก M0 – M4 ซึ่ง M0 หมายถึงวัสดุที่ไม่ติดไฟ และ M4 หมายถึงวัสดุที่ติดไฟได้ง่ายที่สุด
วิธีการทดสอบ: มาตรฐานนี้กำหนดวิธีการทดสอบความสามารถในการต้านทานไฟของวัสดุโดยใช้เปลวไฟขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ และวัดการลามไฟ ความสามารถในการติดไฟ และการเกิดควัน
การจัดอันดับ: การทดสอบจะให้คะแนนวัสดุตามระดับการลามไฟ โดยใช้ระบบการจัดระดับ M ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้:
- M0: วัสดุไม่ติดไฟ
- M1: วัสดุติดไฟได้ยาก
- M2: วัสดุติดไฟได้ปานกลาง
- M3: วัสดุติดไฟได้ง่าย
- M4: วัสดุติดไฟได้ง่ายมาก
มาตรฐาน NF P92-507 เป็นการรับรองว่าวัสดุที่ใช้มีความปลอดภัยต่อการลามไฟ ซึ่งมีความสำคัญในการป้องกันอัคคีภัยในอาคารและพื้นที่สาธารณะ
ผ้าหน้ากว้าง 320 เซนติเมตร ดีกว่าอย่างไร
โดยทั่วไปแล้วความสูงของแต่ละห้องมีความสูงไม่เท่ากัน โดยทั่วไป คอนโดมิเนียมความสูงจะประมาณ 240 – 270 เซนติเมตร ส่วนบ้านพักอาศัย ประมาณ 260 – 330 เซนติเมตร ความสูงสำหรับห้องต่างๆ ดังนี้
- ห้องนอน: ประมาณ 250 – 270 เซนติเมตร
- ห้องน้ำ: ประมาณ 230 – 240 เซนติเมตร
- ห้องครัว: ประมาณ 250 – 270 เซนติเมตร
- ห้องรับแขก: ประมาณ 260 – 330 เซนติเมตร
- ห้องรับประทานอาหาร: ประมาณ 260 – 300 เซนติเมตร
- ห้องทำงาน: ประมาณ 260 – 300 เซนติเมตร
ซึ่งความสูงดังกล่าวก็มีผลกับความสูงของหน้าต่างและประตูด้วยเช่นกัน ซึ่งส่งผลต่อการวางแผนในการจัดการเรื่องผ้าม่านเช่นเดียวกัน
การเย็บม่านในแบบผ้าหน้ากว้างปกติ
ผ้าม่านหน้ากว้างปกติ จะมีขนาดวัดจากริมผ้าด้านหนึ่งถึงอีกด้านอยู่ที่ 135-150 เซนติเมตร จะเย็บโดย ให้ริมผ้าอยู่ทางซ้ายและขวา โดยความสูงของม่านไม่กำจัด แต่จะมีการต่อผ้าในแนวตั้ง เป็นช่วงๆ ไปตลอดทั้งผืน
การเย็บม่านในแบบผ้าหน้ากว้าง
ผ้าม่านหน้ากว้าง จะมีขนาดวัดจากริมผ้าด้านหนึ่งถึงอีกด้านอยู่ที่ 280-350 เซนติเมตร จะเย็บโดย ให้ริมผ้าอยู่ทางบนและล่าง โดยความยาวของม่านไม่จำกัด แต่จะมีการต่อผ้า ถ้าห้องมีความสูงเป็นพิเศษ
เป็นที่รู้กันดีว่าผ้าหน้ากว้างประหยัดกว่า ผ้าม่านหน้าปกติถึง 30% โดยการหมุนให้ริมผ้าอยู่ในทิศบน-ล่างทำให้เราสามารถเย็บม่านได้ยาวต่อเนื่องโดยไม่มีรอยต่อ ซึ่งปกติห้องทั่วไป จะสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.5 เมตร ดังนั้นการที่เราเลือกใช้ผ้าหน้ากว้าง 320 ซม. จึงทำให้สามารถเย็บม่านได้ตลอดความสูงห้อง เพดานสูง 240-285 เซนติเมตร ได้สบายๆ ไร้รอยต่อ สวยงามเต็มผืน
ในทางกลับกัน ถ้าห้องของคุณมีความสูงมากกว่า 285 เซนติเมตร ก็ต้องมีการพิจารณากันว่า จะให้ผ้าม่านมีรอยต่อในแนวตั้ง เป็นช่วงๆ หรือจะต่อในแนวนอน เป็นแนวยาวตลอดทั้งผืน ซึ่งในบางครั้ง จากปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ก็อาจจะแก้ให้เป็นข้อดีโดยใช้การแบ่งเป็นลูกเล่นในการให้สีผ้าม่านมีน้ำหนักอ่อนเข้ม หรือสลับสีให้เกิดบรรยากาศที่สนุกสนานขึ้นอีกด้วย
เข้าใจเรื่องสไตล์การตกแต่ง
Understanding the style of home decoration
สไตล์การตกแต่งบ้านยอดนิยมในปัจจุบันมีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความชอบและรสนิยมของผู้อยู่อาศัย โดยแต่ละสไตล์จะมีเอกลักษณ์และจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ดังนี้
- แบ่งตามลักษณะทาง วัฒนธรรมธรรม (Culture) และลักษณะทางภูมิประเทศ (Topography)
- โลกฝั่งตะวันตก (ยุโรป อเมริกา แอฟริกา)
- โลกฝั่งตะวันอกก (เอเชีย)
- แบ่งตามลักษณะแนวความคิดทางอุดมคติ (Ideal) ปรัชญา (Philosophy) บางอย่าง
- แบ่งตามยุคสมัย ตามกาลเวลา (Era and Time period)
1. แบ่งตามลักษณะทาง วัฒนธรรมธรรม (Culture) และลักษณะทางภูมิประเทศ (Topography)
เป็นลักษณะเฉพาะตัวของสไตล์การออกแบบตกแต่งที่ได้รับอิทธิผลจาก วัฒนะธรรมพื้นถิ่นที่มีเอกลักษณ์ รูปแบบที่แตกต่างกันออกไป และลักษณะทางภูมิประเทศที่หลากหลาย เช่น เขตอบอุ่น, ร้อนชื้น เหล่านี้ก็จะส่งผลต่อแนวคิด การเลือกใช้วัสดุ ฟังชั่นต่างๆ ที่ตอบโจทย์ตามลักษณะภูมิประเทศนั้นๆ
1.1 ฝั่งตะวันตก (ยุโรป อเมริกา แอฟริกา)
สไตล์ | ลักษณะเด่น | จุดสังเกตุ | สีและวัสดุ | ที่มา |
---|---|---|---|---|
สแกนดิเนเวียน Scandinavian หรือ นอร์ดิก Nordic | อบอุ่น เรียบง่าย ใกล้ชิดธรรมชาติ | ผสมผสานสีขาว เฟอร์นิเจอร์ไม้ แสงธรรมชาติ | ขาว ครีม เทา น้ำตาล อ่อน ไม้ ผ้าขนสัตว์ | สแกนดิเนเวีย |
โมร็อกกัน Moroccan | สีสันสดใส ลวดลายซับซ้อน | โมเสก กระเบื้องลายดอกไม้ โคมไฟระย้า | แดง ส้ม เขียว ชมพู น้ำเงิน โมเสก กระเบื้อง ผ้าขนสัตว์ | โมร็อกโก |
ยุโรป European | หรูหรา คลาสสิก ประณีต | เฟอร์นิเจอร์ไม้แกะสลัก โคมไฟระย้า สีทอง ครีม | ทอง ครีม ขาว เฟอร์นิเจอร์ไม้แกะสลัก โคมไฟระย้า | ยุโรป |
โบฮีเมียน Bohemian | อิสระ เต็มไปด้วยสีสัน ลวดลาย | ผสมผสานหลายสไตล์ เน้นของตกแต่ง | หลากหลาย ขึ้นอยู่กับดีไซน์ | ยุโรปตะวันออกกลาง |
ชนบทของฝรั่งเศส French Countries | อบอุ่น อ่อนหวาน เรียบง่าย | เฟอร์นิเจอร์ไม้ ผ้าลินิน ตะกร้าหวาย | ครีม น้ำตาล เขียว โทนธรรมชาติ | ชนบทใน ฝรั่งเศส |
1.2 ฝั่งตะวันอกก (เอเชีย)
สไตล์ | ลักษณะเด่น | จุดสังเกตุ | สีและวัสดุ | ที่มา |
---|---|---|---|---|
บาหลี Balinese | เรียบง่าย ใกล้ชิดธรรมชาติ | ผสมผสานไม้ หิน สวน โทนสีอบอุ่น | น้ำตาล เขียว เฟอร์นิเจอร์ไม้ หิน ไม้ไผ่ | อินโดนีเซีย |
จีน Chinese | แดง โบราณ เรียบหรู | สีแดง เฟอร์นิเจอร์ไม้แกะสลัก มังกร | โทนสีแดง ทอง ดำ เน้นวัสดุไม้ ผ้าไหม หยก | จีน |
ญี่ปุ่น Japanese | เรียบง่าย อบอุ่น ธรรมชาติ | บ้านไม้ เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น ประตูบานเลื่อน เสื่อทาตามิ | ไม้ธรรมชาติ โทนสีอบอุ่น มินิมอล | ญี่ปุ่น |
ไทย Thai | เรือนไทย โบราณ วัฒนธรรม | บ้านไม้หลังคาจั่ว หน้าจั่ว ประตูไม้แกะสลัก | โทนสีน้ำตาล ครีม ส้ม เน้นวัสดุไม้ ผ้าปูพื้น | ไทย |
2. แบ่งตามลักษณะแนวความคิดทางอุดมคติ (Ideal) ปรัชญา (Philosophy) บางอย่าง
สไตล์การตกแต่งบ้านสามารถแบ่งตามแนวความคิดทางอุดมคติและปรัชญาได้หลายรูปแบบ โดยแต่ละสไตล์จะมีลักษณะเฉพาะที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและความเชื่อที่แตกต่างกันไป นี่คือตัวอย่างของสไตล์การตกแต่งบ้านที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอุดมคติและปรัชญาต่างๆ
สไตล์ | ลักษณะเด่น | จุดสังเกตุ | สีและวัสดุ | ที่มา |
---|---|---|---|---|
มินิมอล Minimalist | เรียบง่าย เน้นพื้นที่ โล่ง โปร่ง | เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เน้นเส้นตรง เรียบง่าย | โทนสีขาว เทา ครีม เน้นวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน | ญี่ปุ่น |
ลอฟต์ Loft | ดิบเท่ โปร่ง โล่ง | โครงสร้างเปลือย เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น | สีเข้ม อิฐ ปูนเปลือย โลหะ | อเมริกา |
อินดัสเทรียล Industrial | ดิบ เท่ เน้นโลหะ โครงสร้าง | เฟอร์นิเจอร์โลหะ อิฐ ปูนเปลือย | ดำ เทา น้ำตาล อิฐ โลหะ | อเมริกา |
รัสติก Rustic | เน้นวัสดุไม้, หิน และความเป็นธรรมชาติ | ไม้เก่า, อิฐเปลือย ,ตกแต่งด้วยของโบราณ | สีเอิร์ธโทน, ไม้, หิน, ผ้าลินิน, หนัง | ยุโรป |
ทรอปิคัล Tropical | ใช้สีสันสดใสและลวดลายที่สะท้อนถึงธรรมชาติในเขตร้อน | ระบายอากาศดี ต้นไม้ในบ้าน หน้าต่างใหญ่ | ไม้, หญ้าคา, สีเขียว, น้ำเงิน, สีเกี่ยวกับธรรมชาติ | เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ |
เซน Zen | เน้นความสงบและสมดุล, ใช้วัสดุธรรมชาติ | ความสงบและสมดุล, พื้นที่เปิด, มีระเบียบ | ไม้, หิน, กระเบื้อง สีขาว, เทา, สีธรรมชาติ | ญี่ปุ่น |
ฮอลลีวูดรีเจนซี่ Hollywood Regency | หรูหราและอลังการ เน้นความเป็นทางการ | สีสันสดใส, เฟอร์นิเจอร์โค้ง, ใช้ของตกแต่งชื้นใหญ่ | สีทอง, ดำ, ขาว, ชมพูสด, กำมะหยี่, วัสดุมันวาว | อเมริกา |
นอทิคัล Nautical | โทนสีน้ำเงินและขาว, ลวดลายที่สะท้อนถึงทะเล | สมอเรือ, พังงา, ลวดลายทางเรือ | สีขาว, น้ำเงิน. แดง, ไม้สัก, เชือกป่าน, ผ้าลินิน | อเมริกา, ยุโรป |
บีชคอทเทจ Beach Cottage | ผ่อนคลาย, กลิ่นอายชายหาด, เรียบง่าย | สีโทนอ่อน, เฟอร์นิเจอร์เก่า, งานหัตถกรรม | สีฟ้า, ขาว, ทราย, ผ้าลินิน, ไม้หวาย | อเมริกา, ออสเตรเลีย |
ฟาร์มเฮ้าส์ Farmhouse | เรียบง่าย, อบอุ่น, อิงธรรมชาติ | เฟอร์นิเจอร์ไม้โบราณ,การใช้ลายตาราง | สีขาว, เทา, เขียวอ่อน, ไม้อิฐ, ผ้าฝ้าย, ผ้าลินิน | อเมริกา, ยุโรป |
ชิโนโปรตุเกส Sino-Portuguese | ผสมผสานศิลปะจีนและโปรตุเกส | ประตูโค้ง, ลวดลายปูนปั้น , กระเบื้องสีสันสดใส | สีขาว, ฟ้า, แดง, ไม้, กระเบื้อง, หิน | ไทย, มาเลเซีย |
โคโลเนียล Colonial | หรุหรา, เรียบง่าย, คลาสสิค | เฟอร์นิเจอร์ไม้โบราณ, การใช้ลายเส้นชัดเจน, ผ้าม่านลายดอกไม้ | สีครีม, ทอง, ไม้ หวาย, ผ้าฝ้าย, ผ้าลินิน | ยุโรป อเมริกา เอเชีย |
Loft style และ Industrial style ต่างกันอย่างไร
สไตล์การตกแต่งที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่บ้างในรายละเอียด ดังนี้
Loft style
- เน้นความดิบเท่ โปร่งโล่ง ผสมผสานความเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน
- มักใช้พื้นที่แบบ Open Plan โชว์โครงสร้างดั้งเดิม เช่น โครงสร้างเหล็ก เพดานสูง
- นิยมใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น อิฐเปลือย ไม้ปูน เหล็ก
- เฟอร์นิเจอร์เน้นดีไซน์เรียบง่าย ฟังก์ชันการใช้งาน
- สีสันส่วนใหญ่เป็นโทนสีธรรมชาติ เช่น น้ำตาล เทา ดำ ขาว
Industrial style
- เน้นความดิบ เท่ สมบุกสมบัน ได้รับแรงบันดาลใจจากโรงงานอุตสาหกรรม
- มักมีองค์ประกอบที่บ่งบอกถึงความเป็นอุตสาหกรรม เช่น ท่อเหล็ก เกียร์ โซ่
- นิยมใช้วัสดุที่ทนทาน เช่น เหล็ก โลหะ ไม้เก่า
- เฟอร์นิเจอร์เน้นดีไซน์ดิบๆ เท่ๆ
- สีสันส่วนใหญ่เป็นโทนสีเข้ม เช่น ดำ น้ำตาล เทา
3. แบ่งตามยุคสมัย ตามกาลเวลา (Era and Time period)
กล่าวคือ ถ้าเรานับว่าการตกแต่งที่เข้ากับยุคสมัยดูเหมาะสมกับปัจจุบันคือ สไตล์ร่วมสมัย (ContemporaryStyle) เป็นจุดตรงกลางที่เราอยู่ ณ ขณะนี้ มองทางทางซ้ายคืออดีต คือสไตล์วิเทจ (Vintage Style) อดีตที่มีช่วงเวลาที่แน่นอนของยุโรปราว ค.ศ. 1950-1970 ก็คือ สไตล์เรโทร (Retro Style) ในฝั่งที่อเมริการาว ค.ศ. 1950-1960 ก็จะมีสไตล์ที่เรีนกว่า สไตล์มิดเซนจูรีโมเดิร์น (Mid-century Modern Style) ส่วนสไตล์การตกแต่งที่ดูย้อนยุคที่ดูหรูหรา ประณีตอย่างลงตัวก็จะเรียกว่า สไตล์คลาสสิก (Classic) ในทางกลับกันสไตล์ที่มองไปข้างหน้า ล่ำสมัย ที่เน้นรูปทรงที่แปลกใหม่พร้อมไปกับฟังชั่นการใช้งาน ก็จะถูกเรียกว่า สไตล์โมเดิร์น (Modern Style)

สไตล์ | ลักษณะเด่น | จุดสังเกตุ | สีและวัสดุ | ที่มา |
---|---|---|---|---|
สไตล์ล้ำยุค Futuristic | ดูล้ำสมัย ไม่เคยเห็น เหมือนอยู่ในหนังไซไฟ อนาตค | รูปทรงแปลกตา เหมือนมาจากอนาตค | ขาว โลหะ เรืองแสง มันวาว | นิยายวิทยาศาสตร์ ไซไฟ |
โมเดิร์น Modern | เรียบง่าย เน้นฟังก์ชั่น โปร่ง โล่ง | เส้นตรง รูปทรงเรขาคณิต หน้าต่างบานใหญ่ | ขาว ครีม เทา ดำ ไม้ โลหะ กระจก | ยุโรป |
คอนเทมโพรารี่ Contemporary | ทันสมัย ผสมผสานหลายสไตล์ | เน้นฟังก์ชั่น ผสมผสานวัสดุ ลวดลาย | หลากหลาย ขึ้นอยู่กับดีไซน์ | อเมริกา |
คลาสสิก Classic | หรูหรา อลังการ เน้นความประณีต | รายละเอียดปูนปั้น เฟอร์นิเจอร์ไม้แกะสลัก โคมระย้า | สีทอง ครีม น้ำตาล ไม้แกะสลัก หินอ่อน ผ้ากำมะหยี่ | ยุโรป ยุคเรเนซองส์ ศตวรรษที่ 14-17 |
วินเทจ Vintage | ย้อนยุค โบราณ คลาสสิก | เฟอร์นิเจอร์เก่า ของตกแต่งโบราณ | โทนสีอบอุ่น ครีม น้ำตาล เน้นวัสดุไม้ ผ้า หนัง | ยุโรป |
เรโทร Retro | ย้อนยุค เน้นความสนุกสนาน | สีสันสดใส ลวดลายกราฟิก | โทนสีส้ม เหลือง เขียว เน้นวัสดุพลาสติก โลหะ ผ้าลายกราฟิก | อเมริกา ยุค 50s – 70s |
มิดเซนจูรี Mid-century | เรียบง่าย อบอุ่น เน้นธรรมชาติ | เฟอร์นิเจอร์ไม้ ขาเรียว โซฟาหนัง โคมไฟตั้งพื้น | สีเอิร์ธโทน น้ำตาล เขียว ส้ม ไม้ หนัง ผ้าขนสัตว์ | อเมริกา ยุค 50s-60s |
บทความโดย อ.ทายาท เตชะสุวรรณ์, บริษัท นิทัส เทสซิเล จำกัด
ภาพประกอบโดย Leonardo.ai
แบบประตู หน้าต่าง สัญลักษณ์แบบนี้มันคืออะไรนะ
ในการเขียนแบบเชิงสถาปัตยกรรม สัญลักษณ์ที่ใช้เพื่อแสดงหน้าต่างและประตูในแบบแปลน และรายละเอียดอื่นๆ มีความสำคัญในการสื่อสารกับผู้รับเหมาและผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการก่อสร้าง นี่คือสัญลักษณ์และหลักการทั่วไปที่ใช้ในการแสดงหน้าต่างและประตู
หน้าต่างบานฟิกซ์ Fixed Window: ใน แบบผังพื้น (Plan) สัญลักษญ์จะเป็นลักษณะ สี่เหลี่ยม ซ้ายขวาแทนเฟรม และเส้นขีดยาวหนึ่งเส้นแทนกระจก ในภาพด้าน Ellevation จะมีลักษณะเป็นกรอบสี่เหลี่ยม และถ้าวัสดุนั้นเป็นกระจกใส ก็จะมีการเขียนเส้นเป็นขีดๆ แนวทะแยงมุมสั้นๆ สองสามขีด
หน้าต่างบานเปิด, หน้าต่างบานกระทุ้ง และหน้าต่างบานทิวแอนด์เทิร์น: ในแบบผังพื้น สัญลักษญ์จะเป็นลักษณะ สี่เหลี่ยม ซ้ายขวาแทนเฟรมวงกบ และมีการเขียนเหมือนลักษณะการเปิด และมีเส้นโค้งรัศมี นการเปิด ในภาพด้าน Ellevation จะมีลักษณะเป็นกรอบสี่เหลี่ยม แต่จะมีเส้นเป็นลักษณะเหมือน < หรือ > โดยให้สังเกตุมุมหันไปทางใด แปลว่าเป็นจุดหมุนของตัวบานเปิด
หน้าต่างบานสไลด์ และบานยก ในแบบผังพื้น สัญลักษญ์จะเป็นลักษณะ สี่เหลี่ยม ซ้ายขวาแทนเฟรมวงกบ และมีสี่เหลี่ยม ซ้ายขวาเฟรมบานกระจกและเส้นขีดยาวหนึ่งเส้นแทนกระจก โดยจพสังเกตว่าตัวบานเฟรมกระจก ในภาพด้าน Ellevation จะมีลักษณะเป็นกรอบสี่เหลี่ยม แต่จะมีเส้นเป็นลักษณะเป็นลูกศรบอกทิศทางการเปิด
หน้าต่างบานเฟี้ยม ในแบบผังพื้น สัญลักษญ์จะเป็นลักษณะ แสดงให้เห็นการพับของบานที่ชัดเจน โดยจะเป็นสี่เหลี่ยมวางในแนวเอียง 45 องศา สลับกันไปมาในภาพด้าน Ellevation จะแสดงทั้งมุมในการเปิดแบบหน้าต่างบานเปิด และลูกศรแบบหน้าต่างบานสไลด์ และจะมีวิธรการนับชุดบานตัวชุดตัวเลข เช่น 6:3:3 แปลว่ามีทั้งหมด 6 บาน โดยเปิดแยกกลางไปทางซ้าย 3 ขวา 3 อีกตัวอย่างคือ 4:1:3 แปลว่ามีทั้งหมด 4 บาน โดยเปิดแยกกลางไปทางซ้าย 1 ขวา 3 อีกตัวอย่างคือ 5:0:5 แปลว่ามีทั้งหมด 5 บาน โดยเปิดแยกกลางไปทางขวาทั้งหมดเป็นต้น
ท้ายนี้บทความรู้จะช่วยให้ ร้านคู่ค้าของเรา ร้านขายผ้าม่านต่างๆ ดูแบบบ้านลูกค้าได้ง่าย และมีความเข้าใจมากขึ้น เพื่อง่ายต่อการคิดแบบคำนวนราคา นิทัสเราเป็นผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายผ้าม่านและผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ นะจ๊ะ ไม่ต้องทักมาถามหาซื้อประตู วงกบ หน้าต่าง งานเฟรมอลูมิเนียม น่าาาาาา 55555
การวัดหน้าต่างบ้าน NORDIC Style
สไตล์นอร์ดิก (Nordic Style) หรือสไตล์สแกนดิเนเวียน (Scandinavian Style) เป็นสไตล์การตกแต่งภายในและการออกแบบบ้านที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย เช่น สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ และไอซ์แลนด์
องค์ประกอบหลักๆ ของบ้านสไตล์นอร์ดิกประกอบด้วย
- สีสันที่เรียบง่าย: มักจะใช้สีขาว เทา และสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เช่น สีไม้หรือสีเบจ เพื่อสร้างบรรยากาศที่สว่างและอบอุ่น
- การใช้แสงธรรมชาติ: บ้านสไตล์นอร์ดิกมักจะมีหน้าต่างใหญ่เพื่อให้แสงธรรมชาติเข้ามามากที่สุด
- การใช้ไม้และวัสดุธรรมชาติ: ไม้เป็นวัสดุหลักที่ใช้ในการตกแต่งและสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น
- การออกแบบที่เรียบง่าย: ใช้เส้นสายที่เรียบง่าย ไม่มีการตกแต่งที่ซับซ้อน เพื่อให้ดูสะอาดและโปร่งสบาย
- เฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชั่น: มักจะเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานได้หลายรูปแบบและมีการออกแบบที่เรียบง่าย
- การใช้สิ่งทอที่นุ่มนวล: ผ้าคลุม หมอน และพรมที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ขนสัตว์หรือผ้าฝ้าย เพื่อเพิ่มความอบอุ่นและความสบาย
- การใช้ต้นไม้และพืชในบ้าน: ต้นไม้และพืชช่วยเพิ่มความสดชื่นและสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น
บ้านสไตล์นอร์ดิกกำลังเป็นที่นิยมมากในเมืองไทย เนื่องจากความเรียบง่ายและความอบอุ่นที่สไตล์นี้นำมา นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งและเพิ่มสไตล์ส่วนตัวของเจ้าของบ้าน ทำให้สามารถสร้างบ้านที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ได้ตามความต้องการของผู้พักอาศัย
แต่หลายคนคงสังเกตว่า สไตล์แบบนอร์ดิก เป็นสไตล์ที่มีจากแถบทวีปเขตอบอุ่น ที่เขาต้องการแสงแดดจากธรรมชาติ แต่สำหรับเมืองไทย เป็นที่รู้กันอยู่ว่า เมืองไทยมีแค่สามฤดูคือ ร้อน ร้อนมาก และร้อนสุดๆ ฉะนั้นการที่บ้านเรามีหน้าต่างบ้านใหญ่ที่เป็นทรงจั่วสามเหลี่ยมที่รับแสงขนาดนั้น เราคงต้องมีการติดผ้าม่านช่วยในการกันแสงแดด และลดความร้อนภายในบ้าน แต่ด้วยทรงของบ้านที่ทรงหน้าต่าง ไม่ได้เป็นในรูปแบบสี่เหลี่ยมปกติ เป็นรูปทรงที่เป็นจั่วสามเหลี่ยมขึ้นไปเลยแบบนั้น เราจะมีวิธีในการคำนวณได้อย่างไรกันนะ
ลองมาดูวิธีง่ายๆ ในการคำนวณตามข้อมูลด้านล่างนี้กันเลย




