ภูมิปัญญาการย้อมผ้าในอดีต (Traditional Dyeing Wisdom in the Past) ก่อนที่ความรู้ทางเคมีสมัยใหม่จะเข้ามา มนุษย์ใช้สิ่งของจากธรรมชาติรอบตัวเพื่อการย้อมผ้า โดยอาศัยทั้ง สีจากธรรมชาติและ สารช่วยย้อม (mordant หรือกรด-ด่างธรรมชาติ) ที่หาได้ง่ายในชีวิตประจำวัน
แหล่งสีย้อมธรรมชาติ
- เปลือกไม้ ใบไม้ และรากไม้ → เช่น เปลือกประดู่ เปลือกมะเกลือ ให้สีน้ำตาล–ดำ
- พืชให้สีฟ้า–คราม → เช่น คราม (Indigofera tinctoria) ใช้หมักให้เกิดสีน้ำเงินคราม
- ดอกไม้และผลไม้ → เช่น ดอกคำฝอยให้สีเหลือง–ส้ม เปลือกทับทิมให้สีเหลือง
- สัตว์บางชนิด → เช่น ครั่ง (lac dye) ที่ได้จากแมลง ให้สีแดงอมม่วง
ในกรณีแบ่งตามสีต่างๆ
- สีน้ำเงิน/สีคราม → ใบและเถา ของ คราม (Indigofera tinctoria), ฮ่อม
- สีเหลือง → ขมิ้น, แก่นขนุน, ดอกดาวเรืองดอก, ใบมะม่วง และ เปลือกหัวหอมสีน้ำตาล
- สีแดง/สีชมพู → ครั่ง (จากแมลงครั่ง), แก่นฝาง, ดอกคำฝอย, เปลือกรากยอ
- สีเขียว → ใบหูกวางสด, เปลือกต้นมะริดไม้
- สีน้ำตาล → เปลือกโกงกาง, เปลือกผลเงาะสด, เมล็ดคั่วบดกาแฟ หรือ ใบชา
- สีส้ม → ผลและเมล็ดคำแสด, เปลือกหัวหอมสีน้ำตาล, เปลือกและรากยอ
- สีดำ/สีเทา → ลูกมะเกลือดิบ, เปลือกสมอ, ดินโคลน (ใช้ในการหมักหรือย้อม)
นอกจากการได้สีตรงๆ แล้วยังมีเทคนิคการย้อมทับอีกด้วย เช่น อยากได้สีเขียว โดยการย้อม คราม แล้วย้อมทับด้วยสีเหลืองจากใบมะม่วง เป็นต้น
สีน้ำเงินจากธรรมชาติ จาก ต้นคราม กับ ต้นฮ่อม เป็นพืชคนละชนิดกัน แต่ถูกใช้เป็นสีย้อมสีน้ำเงิน/ครามเหมือนกัน และมีชื่อเรียกในท้องถิ่นที่ทับซ้อนกันมาก เป็นพืชที่ให้สีครามที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก และเป็นพืชเศรษฐกิจสำหรับย้อมสีในภาคอีสานของไทย
รายละเอียด | ต้นคราม (True Indigo) | ต้นฮ่อม (Strobilanthes/ Baphicacanthus) |
---|---|---|
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Indigofera tinctoria Linn. | Strobilanthes cusia (Nees) Bremek. หรือ ชื่อพ้องคือ Baphicacanthus cusia (Nees) Bremek. |
วงศ์ | Fabaceae (วงศ์ถั่ว) | Acanthaceae (วงศ์เหงือกปลาหมอ) |
ชื่อสามัญ (อังกฤษ) | Indigo, True Indigo | Assam Indigo, Chinese Rain Bell |
ชื่อไทย (ทั่วไป) | คราม | ฮ่อม |
ชื่อไทยตามภูมิภาค | คาม (ภาคเหนือ, ภาคอีสาน) | ครามดอย (แม่ฮ่องสอน) ฮ่อมเมือง, ฮ่อมหลวง, ฮ่อมน้อย (น่าน, เชียงใหม่, แพร่) ครามหลอย |
ลักษณะ | ไม้พุ่มขนาดเล็ก ใบประกอบแบบขนนก ดอกเป็นช่อยาวสีชมพูหรือม่วงแดง ฝักเล็กคล้ายฝักถั่ว มีสารให้สีหลักคือ อินดิโก้ (Indigo) | พืชล้มลุกหรือไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นเป็นข้อปล้อง ใบมีขนาดใหญ่กว่าคราม มีสารให้สีหลักคือ อินดิโก้ (Indigo) เช่นกัน |
พื้นที่ปลูกในไทย | ส่วนใหญ่พบมากใน ภาคอีสาน (เช่น สกลนคร) | ส่วนใหญ่พบมากใน ภาคเหนือ (เช่น แพร่, น่าน) |
สารช่วยย้อมจากธรรมชาติ
- ขี้เถ้าไม้ → เมื่อนำมาละลายน้ำได้ น้ำด่างอ่อน (alkaline water) ใช้ช่วยย้อมให้สีติดดีขึ้น
- น้ำส้มสายชู หรือน้ำหมักผลไม้เปรี้ยว → ให้สภาพเป็น กรดอ่อน ใช้ปรับสมดุลการย้อมบางชนิด
- สารส้ม (alum) ที่หาได้จากธรรมชาติ ใช้เป็น สารช่วยยึดเกาะ (mordant) ให้สีติดทนนาน
- เปลือกไม้ฝาด (tannin) → มีรสฝาด ใช้คู่กับสารส้มเพื่อช่วยฟิกซ์สีบนเส้นใยฝ้ายและไหม
เส้นใยที่ย้อมได้ในอดีต เส้นใยธรรมชาติเท่านั้น เช่น ฝ้าย ปอ ป่าน ไหม ขนสัตว์ เพราะเส้นใยสังเคราะห์ (โพลีเอสเตอร์, ไนลอน, อะคริลิก) เพิ่งถูกคิดค้นในยุคอุตสาหกรรมศตวรรษที่ 20 และต้องใช้สีย้อมเฉพาะทางเคมีสูง + อุณหภูมิ/แรงดันเกิน 100 °C ซึ่งชาวบ้านในอดีตไม่สามารถทำได้
- ฝ้าย / ปอ / ป่าน (เส้นใยพืช – เซลลูโลส) → ย้อมด้วย พืชให้สี + สารฝาด (tannin) + สารส้ม (alum) + น้ำด่างจากขี้เถ้า
- ไหม / ขนสัตว์ (เส้นใยโปรตีน) → ย้อมด้วย ครั่ง (แมลง), คราม, เปลือกไม้, ดอกไม้/ผลไม้ให้สี และใช้ กรดอ่อน (น้ำส้มสายชู, น้ำหมักผลไม้) ช่วยให้สีติด
พูดง่าย ๆ คือ: เส้นใยพืชใช้ด่าง/สารฝาดช่วยย้อม, เส้นใยสัตว์ใช้กรดอ่อน/สารส้มช่วยฟิกซ์สี