fbpx

มารู้จักกับ ‘ผ้า’ กันเถอะ

ผ้า (Fabric)  หมายถึง วัสดุชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นแผ่น  และผ่านกระบวนการผลิตจากเส้นใย  ธรรมชาติ หรือสังเคราะห์  เกิดเป็นเส้นด้าย และผ่านกรรมวิธีผลิตจนได้เป็นผืนผ้า

         ประเภทของผ้าแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้

  • ประเภทผ้าทอ (weaving fabric) กรรมวิธีการนำเส้นด้ายมาขัดกัน มีเส้นใยด้าย คือ เส้นด้ายยืน (Warp yarn)  และเส้นด้ายพุ่ง (Weft yarn)
  • ประเภทผ้าถัก (Knitted fabric) การนำเส้นด้ายต่อกันเป็นห่วง (Interlock loops) มีเส้นใยด้าย คือ เส้นด้ายแนวตั้ง (Wales) และเส้นด้ายแนวนอน (Course)
  • ประเภทผ้าไม่ถักไม่ทอ หรือผ้า นอนวูฟเวน (Non woven fabric) มีลักษณะโครงสร้างเป็นแผ่นผ้าที่เกิดจากการสานไปมาของเส้นใย (fibrous web) มีการยึดกันด้วยการ ที่เส้นใยพันกันไปมา (mechanical entaglement) หรือโดยการ ใช้ความร้อน เรซิน หรือสารเคมีในการทำให้ เกิดการยึดกันระหว่างเส้นใย

โดยส่วนใหญ่แล้วผ้าที่นิยมนำมาทำผ้าม่าน และผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่จะเป็นประเภท ผ้าทอ  (weaving fabric) และมีบางส่วนที่เป็นผ้าถัก ซึ่งจะปรากฎในผ้าม่านโปร่ง และผ้าที่เป็นลักษณะทอแบบ ผ้า Velvet หรือผ้ากำมะหยี่ ส่วนผ้านอนวูฟเวน ไม่เป็นที่นิยม และแถบจะไม่ค่อยปรากฎเป็นผ้าม่านและผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ เพราะการควบคุมความสม่ำเสมอของผ้าทำได้ยาก ไม่สามารถทอหรือถักเป็นลวดลายได้ นอกจากมีกระบวนการพิมพ์เพิ่มเติม และความคงทนต่อแรงขัดถู มีน้อยกว่าผ้าทั้งสองประเภทข้างต้น

เส้นใยจากธรรมชาติ เส้นใยจากมนุษย์ทำขึ้น
เส้นใยจากแร่
เส้นใยจากสัตว์
เส้นใยจากพืช
สังเคราะห์จากธรรมชาติ
สังเคราะห์จากกลุ่มปิโตรเลียม
เมล็ด
ใบ
ลำต้น
แร่ใยหิน
ไหม, ขนสัตว์
ฝ้าย, มะพร้าว
สับปะรด, ป่านศรนารายณ์
ลินิน, ป่าน, ปอ, กัญชง
เรยอน,  เซลลูโลสแอซีเตด
พอลิเอสเตอร์, ไนลอน, อะคริลิก,  สแปนเด็กซ์
จากตาราง จะเห็นว่าเส้นใยมีความหลากหลายของที่มาเป็นอย่างมาก แต่ในส่วนของวงการผ้าเพื่อการตกแต่งที่อยู่อาศัย แล้วก็ใช้เส้นใยหลักๆ ตามตัวอักษรสีแดง

โดยเส้นใยที่นำมาทำผ้ามี 3 ชนิด ดังต่อไปนี้

   1.  เส้นใยที่ทำจากธรรมชาติ 100%  (Natural fiber) แบ่งได้เป็นประเภท ดังต่อไปนี้

          เส้นใยไหม (Silk) ใยไหมเป็นโปรตีนของรังไหม นำมาปั่นจนได้เป็นเส้นด้าย และนำมาทอ หรือถักเป็นผืนผ้า คุณสมบัติของผ้าไหม คือมีความนุ่มมือ เงางามจับตา ไม่ยับง่าย หรือไม่ยับเลย คงสภาพของผ้าได้ดี ดูดความชื้นได้ดีพอสมควร ใส่สบาย  และสามารถปรับอุณหภูมิได้  หากใส่ในฤดูหนาวจะรู้สึกอบอุ่น นอกจากนั้นยังสามารถติดไฟได้ เวลาผ้าไหม้จะหด และไหม้เป็นขี้เถ้าการทำความสะอาดต้องซักด้วยสบู่ที่มีฤทธิ์อ่อนเท่านั้น เพราะผงซักฟอกที่มีกรดแรงจะทำลายเนื้อผ้า การรีดต้องนำมาฝ้ายมารองก่อนรีด

          เส้นใยลินิน (Linen) ผลิตจากเส้นใยของต้นลินิน หรือต้นแฟล็กซ์ (flax) แล้วนำมาปั่น จนได้เป็นเส้นด้าย จากนั้นนำมาทอ หรือถัก จนเกิดเป็นผืนผ้า ลินินเป็นเส้นใยธรรมชาติที่มีความคงทน และแข็งแรงที่สุด โดยคุณสมบัติของผ้าลินินจะยับง่าย ซักได้ สามารถ รีดได้ที่อุณหภูมิสูง ลักษณะของผ้าจะมีความมันเงาสวยงาม ผิวเรียบแข็ง ดูดซึมน้ำได้ดี และติดไฟได้ เวลาไหม้จะเหมือนกระดาษ หากจะพับผ้าลินินต้องใช้การม้วนเท่านั้น เพราะหากพับเส้นด้ายอาจหัก หรือเสียทรงได้

          เส้นใยฝ้าย (Cotton) ได้มาจากการนำเส้นใยของปุยฝ้า มาปั่นจนเกิดเป็นเส้นด้าย แล้ว แล้วนำมาทอ หรือถัก ให้เป็นผืนผ้า คุณสมบัติของผ้าฝ้าย หรือผ้าคอตตอน (Cotton) คือยับง่าย รีดยาก หด และย้วย แต่บางเบา หากผลิตเป็นเครื่องนุ่งห่ม จะใส่สบาย โดยปัจจุบันมีกระบวนการในการผลิตเส้นด้ายที่มีประสิทธิภาพ ทำให้คุณภาพของฝ้ายดีขึ้น ทำให้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ผ้าฝ้ายสามารถซักได้ทั้งเครื่องซักผ้า และซักมือ รีดในอุณหภูมิที่สูงได้ ไม่ไหม้ หรือเกิดการหดตัว ขึ้นราได้ง่ายเนื่องจากเป็นใยฝ้าย นอกจากนั้นยังติดไฟได้  เวลาไหม้ลักษณะจะเหมือนกระดาษไหม้ ไม่มียางเหนียว เป็นขี้เถ้า

          เส้นใยขนสัตว์ (Wool) ผ้าขนสัตว์คือการนำขนสัตว์นำมาปั่น จนเกิดเป็นเส้นด้าย จากนั้นทอ หรือถักเป็นผืนผ้า โดยขนสัตว์ที่นิยมมาใช้ทำเป็นผ้าที่สุด คือขนแกะ คุณสมบัติของขนสัตว์คือ ดูดความร้อน และถ่ายเทความชื้นได้ดี เวลาสวมใส่จึงให้ความอบอุ่น และไม่เหนอะหนะร่างกายขณะสวมใส่ ผ้าขนสัตว์จะหดตัวมากเวลาเปียก จึงควรซักแห้งเท่านั้น และหลังจากซักแห้ง ควรเก็บใส่ถุงพลาสติกเพื่อป้องกันมอด

    2. เส้นใยสังเคราะห์จากสารเคมี (Chemical Synthetic fiber)

         ไนลอน (Nylon) ได้มาจากกระบวนการรวมตัวของปิโตรเคมี จำพวกเบนซิน ฟีนอล ไฮโดรเจน หรือแอมโมเนีย โดยนำมาผ่านกรรมวิธีทางเคมี ผลิตเป็นเส้นด้ายด้วยการถัก หรือทอ คุณลักษณะของผ้าไนลอนคือ ความทนทานสูง รูปร่างของผ้าทรงตัวได้ดี สามารถซักผงซักฟอกได้ ทนต่อเชื้อราและแมลง ทนต่อการขัดสี แต่ขณะใส่จะไม่ค่อยสบายตัว มักผลิตขึ้นมาใช้เป็นเสื้อผ้าที่มีราคาไม่สูง

        โพลีเอสเตอร์ (Polyester) ได้มาจากกระบวนการรวมตัวตัวของปิโตรเคมี จำพวกเอทานอล ผ่านกรรมวิธีทางเคมี จนเกิดเส้นด้าย จากนั้นจึงผ่านกระบวนการถัก หรือทอเป็นผืนผ้า โพลีเอสเตอร์เป็นเส้นใยที่ผลิตขึ้นมาเพื่อให้มีคุณสมบัติคล้ายฝ้าย ลักษณะ เป็นเส้นใยยาวนุ่ม เงามัน ดูดความชื้นได้น้อย ผ้ามีความเบาบาง ยับยาก และจับจีบได้ แต่เมื่อใส่ไประยะหนึ่ง ผ้าจะเกิดขุย

        3. เส้นใยสังเคราะห์จากวัสดุธรรมชาติ (Natural Synthetic fiber)

          เรยอน (Rayon) ได้มาจากการนำเปลือกไม้ในธรรมชาติ มาผ่านกรรมวิธีทางเคมี จนเป็นเส้นด้าย จากนั้นจึงผ่านกรรมวิธีด้วยการถัก หรือทอ ผลิตขึ้นมาเพื่อให้มีคุณสมบัติเหมือนกับผ้าฝ้าย คือมีความนุ่ม มันเงา สามารถระบายความร้อน และดูดความชื้นได้ แต่ก็ไม่สามารถเป็นผ้าที่ดีกว่าฝ้ายได้ ราคาค่อนข้างถูกนิยมนำมาทดแทนผ้าฝ้าย