fbpx

MY PLEASURE Collection

MY PLEASURE
WIDE WIDTH DIM-OUT COLLECTION
มาย เพลสเชอะ เล่มรวมผ้าม่านกันแสงหน้ากว้าง


ทำไม ใครๆก็เลือกผ้าลินิน

มาทำความรู้จักกับผ้าลินินกันเถอะ

ผ้าลินินเป็นผ้าที่นิยมมาก เพราะปัจจุบันผู้คนไกลห่างจากธรรมชาติ ผ้าลินินจึงเป็นผ้าที่ให้ความรู้สึกที่ธรรมชาติ อีกทั้งผ้าลินินยังสามารถตกแต่งกับบ้านได้หลากหลายสไตล์อีกด้วย นิยมนำมาทำเป็นผ้าม่าน และผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งที่มาของผ้าลินินนั้นทำมาจากเส้นใยของพืช ที่เรียกว่า “แฟล็กซ์” (Flax) ซึ่งพืชชนิดนี้มักปลูกกันในแถบยุโรป เช่น เบลเยี่ยม ไอร์แลนด์ รัสเซีย เป็นต้น เส้นใยของมันนิยมนำมาทำเป็นเส้นใยผ้า เพราะเป็นเส้นใยที่เหนียว ทนทาน มีประวัติมายาวนานอีกด้วย และด้วยความแข็งแรงของผ้าลินินนี้ เมื่อก่อนจึงถูกนำมาใช้ห่อศพซึ่งเรียกว่า “มัมมี่” ทำให้ผ้าลินินนี้มีประวัติมายาวนานมาก

แฟลกซ์ (Flax) เป็นพืชตระกูล Linaceae ชอบอากาศอบอุ่นชื้น สามารถนำไปผลิตเป็นเส้นใย เส้นด้ายลินิน ซึ่งผลิตโดยการนำไปหมัก บด ต้มให้เปื่อย ปั่นออกมาเป็นเส้นใย พอได้เส้นใยมาก็นำไปเข้าเครื่องเพื่อหวี และเรียงกันให้เป็นขด สุดท้ายก็นำมาปั่นให้เป็นม้วนด้าย จึงออกมาเป็น ผ้าลินินนั่นเอง

คุณสมบัติของผ้าลินิน

ผ้าลินินเป็นผ้าที่สามารถช่วยระบายความร้อนได้ค่อนข้างดี เส้นใยหักและยับค่อนข้างง่าย ไม่เก็บกลิ่นและความชื้น มีความทนทานเนื่องจากเส้นใยมีความเหนียว นอกจากนี้ยังช่วยดูดซับน้ำได้ดีอีกด้วย หากนำไปสวมใส่จะทำให้เย็นสบาย เมื่อซักบ่อยๆ เนื้อผ้าจะมีความมัน ดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ มีลักษณะคล้ายผ้าฝ้าย แต่ยืดหดได้น้อยกว่า ผ้าลินินมีหลายชนิด ตั้งแต่เนื้อละเอียดบางจนถึงเนื้อหยาบหนา นิยมนำมาใช้เป็นผ้าปูโต๊ะ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดมือ เสื้อผ้า ผ้าม่าน ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ และอื่นๆ อีกมากมาย

ผ้าลินิน กับสไตล์การตกแต่งบ้าน

ปัจจุบันการสร้างบ้านที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ตัวบ้านมีความโดดเด่นสวยงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะ และดูเป็นธรรมชาติ นั้นค่อนข้างเป็นเรื่องยาก การเลือกแบบบ้านถือเป็นโจทย์สำคัญ เพราะเราต้องอยู่กับบ้านไปอีกนาน ปัจจุบันรูปแบบบ้านมีความหลากหลายสไตล์มากขึ้น วันนี้ใครที่ยังไม่มีไอเดียแต่งบ้าน Nitas Tessile จะมาแนะนำอีกหนึ่งไอเดียออกแบบบ้านสไตล์ต่างๆ ที่ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งใช้ผ้าลินินร่วมด้วย จะมีสไตล์อะไรกันบ้างไปดูกันค่ะ

บ้านสไตล์สแกนดิเนเวียน (Scandinavian Style) หรือบ้านสไตล์นอร์ดิก (Nordic Style)
เป็นการตกแต่งบ้านที่ได้รับความนิยมมาก เพราะมีความเรียบง่าย อบอุ่น แม้จะใช้สีเอิร์ธโทนอย่างขาว เทา เบส แต่ก็ยังมีเอกลักษณ์ น่าดึงดูด สบายตา หน้าต่างบ้านจะมีความใหญ่ แสงสามารถลอดเข้ามาได้เยอะ เพราะจะทำให้ห้องดูกว้าง การตกแต่งแบบนี้มักจะมีความกลมกลืนไปกับธรรมชาติ เช่น มีการใช้ไม้ผสมผสานในการตกแต่งบ้าน มีการปลูกต้นไม้ภายในบ้าน เป็นต้น และอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญคือ บ้านสไตล์นี้มักใช้ผ้าที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์จากธรรมชาติ เช่น ตัวผ้าแบบลินินในการตกแต่งบ้าน เพราะมีความเป็นธรรมชาติ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายคล้ายกับธรรมชาติ และยังมีความอบอุ่นอีกด้วย

บ้านสไตล์มินิมอล (Minimal Style)
เป็นสไตล์การตกแต่งที่เรียบง่าย ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่มีฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลายภายในของชิ้นเดียว และเลือกใช้ของที่จำเป็นเท่านั้น ทุกอย่างจะถูกออกแบบให้มีความเป็นระเบียบ เอกลักษณ์ของสไตล์นี้คือ การตกแต่งที่มีสีอ่อนอย่างสีเอิร์ธโทน หรือสีโมโนโทน การตกแต่งบ้านสไตล์นี้ยังเว้นสเปซให้มีความกว้างพอสมควร ที่จะมองไปแล้วให้ความรู้สึกสบายตา ใช้แต่เฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็น ทำให้การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลนั้นมีของน้อยชิ้นมากกว่าสไตล์อื่น และยังนำวัสดุที่ดูเรียบง่าย เข้าใจง่ายมาใช้ในการตกแต่ง เช่น ไม้ที่เป็นสีธรรมชาติ โดยไม่ทาสี ผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติอย่างผ้าลินิน และบ้านสไตล์นี้ยังนิยมสำหรับหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่รักความสงบ และชอบการตกแต่งบ้านที่เน้นความสะอาด โล่ง และสบายตา

บ้านสไตล์เนเชอรัล (Natural Style)
บ้านสไตล์ธรรมชาติ จะเป็นการนำธรรมชาติมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบบ้าน เช่น ต้นไม้ ใบไม้ หินต่างๆ หรือวัสดุที่เลียนแบบธรรมชาติ เช่น ไม้เทียม หรือไม้สังเคราะห์ มาทดแทนไม้จริง เนื่องจากปัจจุบันวัสดุธรรมชาติค่อนข้างหายากขึ้น จึงถูกผลิตขึ้นมาทดแทน การตกแต่งผนังอาจปิดผิวด้วยวัสดุธรรมชาติต่างๆ เช่น หิน หรือไม้ หากเป็นโครงสร้างไม้ก็จะมีการโชว์โครงสร้างไม้ให้เห็นชัดเจน รวมทั้งการทำผนังปูนให้มีผิวสัมผัสธรรมชาติ หรือพิมพ์ลายบนผนังปูนเป็นลายธรรมชาติต่างๆ การตกแต่งภายในจะใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบขึ้นรูปจากธรรมชาติเช่นกัน ผ้าที่ใช้ในการตกแต่งส่วนใหญ่จะเป็นผ้าที่มาจากเส้นใยธรรมชาติ อย่างผ้าลินิน เพื่อผิวสัมผัสที่คล้ายกับธรรมชาติ และให้ความรู้สึกสบายตามากที่สุด

บ้านสไตล์ทรอปิคอล (Tropical Style)
Tropical Style นั้นนิยมนำมาใช้ออกแบบตกแต่งบ้านพักตากอากาศ หรือตกแต่งรีสอร์ท เพราะ Tropical หมายถึงเขตร้อนชื้น การตกแต่งจึงเน้นวัสดุจากธรรมชาติ ตกแต่งให้เข้ากับภูมิประเทศที่มีอากาศร้อนชื้น จึงตกแต่งด้วยบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ไปพักร้อน ไม่ว่าจะเรื่องของโทนสีที่พบส่วนใหญ่จะเป็นสีที่เป็นไปตามธรรมชาติ หรือใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น นิยมนำไม้มาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ หน้าต่าง พื้นผนัง รวมถึงนำมาทำของตกแต่งภายในบ้าน และนิยมนำผ้าที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติมาใช้ในงาน เช่น ลินินมาตกแต่งเป็นผ้าม่าน หรือผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

จากสไตล์บ้านทั้งหมดที่ได้กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าทุกสไตล์เน้นเรื่องของความเป็นธรรมชาติเหมือนกัน นั่นคือเหตุผลที่บ้านสไตล์ต่างๆ นี้เลือกใช้ผ้าม่าน และผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นผ้าลินิน เพราะว่าผ้าลินินเป็นผ้าแบบฝ้ายดิบๆ มีความแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน เมื่อเกิดการเสียดสีบ่อยๆ ทำให้ผ้าเสียหายได้ยาก อีกทั้งเมื่อใช้เป็นผ้าม่าน ผ้าลินินจะทิ้งตัวสวยให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ เข้ากับงานออกแบบของโครงสร้างตึกต่างๆได้ดี ตัวเนื้อผ้าไม่ได้ทึบจนเกินไป ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกโปร่งโล่งสบาย แสงสามารถลอดเข้ามาได้ส่วนหนึ่ง เห็นทัศนียภาพรอบตัวบ้านได้ ซึ่งทำให้ห้องดูกว้างเป็นธรรมชาติมากขึ้น และเมื่อใช้ไม้ในการตกแต่งบ้าน หรือใช้ทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ ทำให้บ้านดูกลมกลืนกันอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นอีกด้วย

ถ้าใครชื่นชอบสไตล์บ้านดังกล่าวก็อย่าลืมไปหาผ้าลินินมาตกแต่งบ้านกันด้วยนะคะ ^^

ผ้าของนิทัสมีตัวไหนบ้าง ที่เป็นลินินกันนะ?

หลังจากที่นิทัสได้พาชมสไตล์บ้านต่างๆ แล้ว ใครที่ชื่นชอบผ้าลินิน และอยากทราบว่าที่บริษัทนิทัสมีผ้าลินินกี่ตัว แบบไหนบ้าง วันนี้ทางนิทัสจะมาแนะนำผ้าม่าน และผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นผ้าลินินของทางบริษัทเราดังนี้ค่ะ

ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ : 30010 SMART, 30013 ROMAN, 30018 GREEK, 30024 PERIOD, 30036 CRYSTAL30042 CAPPADOCIA, 30044 MACEDONIA, 30053 ATLANTIS, 30061 TIMANFAYA, 30062 PENISULA, 30063 SIERRA, 30064 NEVADA

ผ้าที่เป็นได้ทั้งผ้าม่าน และผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ : 10528 CANVAS, 30065 CABRERA, 30066 PARADISO, 30067 ORDESA, 30068 BASILICA, 30069 PERITO, 40008 LHASA

ผ้าม่าน :  10529 NEAT

ผ้าม่านโปร่ง : 10977 KNITTING SHEER90011 VENUS90026 CHAMPAGNE

หรือต้องการหาผ้าที่ที่มีลักษณะ Natural looks ได้ที่ คลิ้กเลย

สุดท้ายนี้ใครที่อยากสัมผัสถึงความเป็นธรรมชาติภายในบ้าน เป็นสายคลีน รวมถึงชื่อชอบบ้านสไตล์ต่างๆ ที่ทางนิทัสได้แนะนำไปก็อย่าลืมมีผ้าลินินติดบ้านไว้ด้วยนะคะ

หัวข้อถัดไป นิทัสจะพาไปเรียนรู้ และแนะนำอะไรใหม่ๆอีก อย่าลืมติดตามกันนะคะ ^^

MY PLEASURE Collection

 

MY PLEASURE
Wide Width Dim-Out Collection:
แผ่นพับรวมผ้าม่านกันแสงหน้ากว้าง


MULTIVERSE Collection

MULTIVERSE
LUXURY DIM-OUT, BLACKOUT AND SHEER COLLECTION
มัลติเวิร์ส เล่มรวมผ้าม่านกันแสง ทึบแสง และผ้าโปร่งดีไซน์เรียบหรู


รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ B-REVAN.png

THE DARK NIGHT RISING Collection

SPRING SUMMER SCENT Collection

 

SRING SUMMER SCENT
COLOURFUL TONE UPHOLSTERY COLLECTION

สปริง ซัมเมอร์ เซนท์ เล่มรวมผ้าบุเฟอร์นิเจอร์โทนสีสัน


เล่มรวมผ้าบุสีน้ำตาล
เล่มรวมผ้าบุสีน้ำเทาดำ

AUTUMN IN MY HEART Collection

AUTUMN IN MY HEART
BROWN TONE UPHOLSTERY COLLECTION

ออทั่ม อิน มาย ฮาร์ท เล่มรวมผ้าบุเฟอร์นิเจอร์โทนสีน้ำตาล

UPHOLSTERY ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์: 30008 HOME RUN, 30010 SMART, 30011 NEO CLASSIC, 30013 ROMAN, 30016 OLYMPIA, 30017 PARTHENON, 30018 GREEK, 30022 CENTURY, 30023 EMPIRE, 30024 PERIOD, 30025 TERMS, 30026 GOTHIC, 30027 ROMANTIC, 30030 NOUVEAU, 30031 COLISEUM, 30032 TROY, 30036 CRYSTAL, 30037 SOLUTION, 30038 ALEPPO, 30039 DAMASCUS, 30041 PETRA, 30042 CAPPADOCIA, 30044 MACEDONIA, 30053 ATLANTIS, 30054 MACHU PICCHU, 30055 SERENGETI, 30056 VALLETTA, 30060 CADIZ,  10570 LOFT


เล่มรวมผ้าบุหลากสีสัน
เล่มรวมผ้าบุสีขาวเทาดำ

REVEN Collection

Revan Blackout Collection


HANSOLO Collection

เล่มรวมผ้าม่านทึบแสง

เลือกผ้าม่านอย่างไร ให้เหมาะสมกับทิศของห้อง?

ทิศทางการขึ้นของดวงอาทิตย์ของประเทศไทย และประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะเริ่มขึ้นจากทิศตะวันออก จากนั้นอ้อมโค้งไปทางทิศใต้ และตกทางทิศตะวันตก เป็นเวลาประมาณ 8 เดือน คือกันยายนจนถึงเมษายน ดังนั้นทิศใต้และทิศตะวันตกจะเป็นทิศที่ได้รับความร้อนมากที่สุด ประมาณ 8-9 เดือนต่อปี การวางตำแหน่งห้องในทิศนี้จึงควรเป็นห้องที่ต้องการความร้อน ควรหลีกเลี่ยงห้องที่ต้องทำกิจกรรมตอนเย็นถึงค่ำ 

ส่วนทิศตะวันออกจะได้รับแสงในตอนเช้าถึงเที่ยงซึ่งเป็นแดดที่ไม่แรง และทิศเหนือเป็นทิศที่รับแสงแดดน้อยที่สุด ดังนั้นสองทิศนี้จึงควรวางตำแหน่งของห้องที่ไม่ต้องการความร้อน ควรเป็นห้องที่ใช้ทำกิจกรรมระหว่างวัน และพักผ่อน เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น เป็นต้น นอกจากนั้นควรจัดวางด้านแคบของตัวบ้านหันไปทางทิศตะวันออกและตะวันตกซึ่งเป็นทิศที่รับแสงแดด เพื่อให้มีพื้นที่ผนังที่รับแสงแดดน้อยที่สุด เนื่องจากผนังอาคารจะดูดซับความร้อนไว้ในเวลากลางวันและคายความร้อนออกมาในเวลากลางคืน ดังนั้นเมื่อมีพื้นที่ผนังที่โดนแสงแดดน้อยจึงดูดกลืนความร้อนในปริมาณน้อยและคายความร้อนออกมาน้อย ทำให้ภายในบ้านไม่ร้อนจนเกิดไปในเวลากลางคืน

แสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ห้องนั้นอยู่สบาย หลายคนคงประสบปัญหาห้องโดนแดดมากไปจนทำให้ร้อน หรือห้องโดนแดดไม่เพียงพอทำให้อับชื้น วันนี้เราจึงพาทุกคนไปเลือกผ้าม่านให้เหมาะสมกับทิศทางของห้อง เพราะผ้าม่านนอกจากจะใช้ตกแต่งเพื่อความสวยงามแล้ว ยังสามารถกรองแสง หรือกันแสงให้กับห้องได้อีกด้วย งั้นเราไปดูกันเลยว่าผ้าม่านแบบไหน เหมาะกับห้องทิศใด

ห้องทิศตะวันออก ‘แสงแดดยามเช้าจะให้ความอบอุ่น หากมันไม่ได้ส่องห้องของคุณมากเกินไป’ ทิศตะวันออกเป็นทิศขึ้นของพระอาทิตย์ ดังนั้นห้องทิศตะวันออก จึงได้รับแดดอ่อนๆ ในยามเช้าตลอดทั้งปี ซึ่งลักษณะแดดยามเช้าจะให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย ช่วยปลุกร่างกายที่กำลังตื่นนอนได้เป็นอย่างดี และแสงแดดจะค่อยๆ หายไปในยามบ่าย แม้จะเป็นแสงแดด แต่ทางด้านทิศตะวันออกจะไม่ค่อยมีลมทำให้รู้สึกอบอ้าว

ผ้าม่านที่เหมาะกับห้องทิศตะวันออก

  • ผ้าม่าน (Curtain) หากคุณเป็นคนที่ชอบรับแสงในยามเช้าของทุกวัน สามารถใช้ผ้าม่านปกติในการตกแต่งห้องทิศตะวันออกได้ โดยผ้าม่านปกติ สามารถกรองแสงได้ประมาณ 50%
  • ผ้าม่านกันแสง (Dim-out Curtain) หากไม่ชอบให้ห้องดูมืดสนิทมากเกินไป ผ้าม่านกันแสงสามารถทำให้ห้องของคุณมีความสว่างเล็กน้อย ไม่ดูอึดอัดมากไป เนื่องจากผ้าม่านกันแสง สามารถกันแสงได้ถึง 80%
  • ผ้าม่านม่านโปร่ง (Sheer) ใช้เป็นตัวเสริมอีกชั้นจากผ้าม่านหลัก ช่วยกรองแสงให้นุ่มนวลขึ้น พลางสายตาบางส่วนจากคนภายนอก และส่งเสริมบรรยากาศของห้องให้ดูสวยขึ้นอีกด้วย

ห้องทิศตะวันตก ห้องทิศตะวันตกเป็นห้องที่ได้รับแสงแดดตั้งแต่ช่วงบ่ายตลอดทั้งปี ซึ่งแดดยามบ่ายจะมีอุณหภูมิสูงมาก เพราะฉะนั้นห้องทิศตะวันตกจะร้อนมาก และสะสมความร้อนจนถึงช่วงพลบค่ำ แม้ว่าแดดจะแรงแต่ควรให้ห้องได้รับแสงแดดบ้าง เพื่อช่วยลดกลิ่นอับ และช่วยฆ่าเชื้อโรค

ผ้าม่านที่เหมาะกับห้องทิศตะวันตก

  • ผ้าม่านทึบแสง 100% (Black Out Curtain) หากในชีวิตประจำวันคุณจำเป็นต้องใช้ห้องทิศตะวันตก ผ้าม่านกันแสง 100% จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับห้องทิศนี้ ทำให้แสงแดดไม่สามารถลอดผ่านเข้ามาในห้องได้ ช่วยให้อุณหภูมิภายในห้องเย็นลง และสามารถช่วยประหยัดพลังงานจากการใช้เครื่องปรับอากาศอีกด้วย
  • ผ้าม่านม่านโปร่ง (Sheer) ใช้เป็นตัวเสริมอีกชั้นจากผ้าม่านหลัก ช่วยกรองแสงให้นุ่มนวลขึ้น พลางสายตาบางส่วนจากคนภายนอก และส่งเสริมบรรยากาศของห้องให้ดูสวยขึ้นอีกด้วย

ห้องทิศใต้ ห้องทิศใต้จะได้รับแดดตั้งแต่ช่วงสาย ถึงบ่าย และในเดือนกันยายน จนถึงมีนาคมห้องทิศใต้จะได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน ทำให้ห้องทิศใต้มีอากาศร้อนมากในช่วงสาย จนถึงบ่าย และทางทิศใต้จะได้รับลมในช่วงฤดูร้อน และฤดูฝน ดังนั้น ห้องทางทิศใต้ควรจะสามารถรับลมได้ดี เพื่อให้ห้องเย็นขึ้น แต่ต้องบังแดดที่เข้ามาทางทิศนี้ด้วย

ผ้าม่านที่เหมาะกับห้องทิศใต้

  • ผ้าม่านทึบแสง 100% (Black Out Curtain) ทิศใต้ได้รับแดดพอๆ กับทิศตะวันออกและเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน ห้องทิศใต้จึงจำเป็นต้องใช้ผ้าม่านกันแสง 100% ในการบังแดดร้อนในช่วงสาย ถึงบ่าย
  • ผ้าม่านกันแสง (Dim-out Curtain) หากไม่ชอบให้ห้องดูมืดสนิทมากเกินไป ผ้าม่านกันแสงสามารถทำให้ห้องของคุณมีความสว่างเล็กน้อย ไม่ดูอึดอัดมากไป เนื่องจากผ้าม่านกันแสง สามารถกันแสงได้ถึง 80%
  • ผ้าม่านม่านโปร่ง (Sheer) ใช้เป็นตัวเสริมอีกชั้นจากผ้าม่านหลัก ช่วยกรองแสงให้นุ่มนวลขึ้น พลางสายตาบางส่วนจากคนภายนอก และส่งเสริมบรรยากาศของห้องให้ดูสวยขึ้นอีกด้วย

ห้องทิศเหนือ ห้องทิศเหนือ เป็นห้องที่ได้รับแสงแดดน้อยมาก เนื่องจากพรอาอาทิตย์จะโคจรอ้อมไปทิศใต้ โดยทั้งปีห้องทิศเหนือจะได้รับแสงเพียงแค่ฤดูหนาว ทำให้ทิศเหนือได้รับร่มเงาจากอาคารตลอดช่วงบ่าย ดังนั้น อากาศของทิศเหนือจึงสบายกว่าห้องทางทิศอื่นๆ

ผ้าม่านที่เหมาะกับห้องทิศเหนือ

  • ผ้าม่าน (Curtain) ห้องทิศเหนือเป็นห้องที่ไม่โดนแสงแดดโดยตรงทั้งวัน การใช้ผ้าม่านธรรมดา จึงใช้เพื่อการตกแต่งให้ห้องสวยงาม น่าอยู่มากขึ้น และไม่ทำให้ห้องดูทึบเกินไป
  • ผ้าม่านม่านโปร่ง (Sheer) ใช้เป็นตัวเสริมอีกชั้นจากผ้าม่านหลัก ช่วยกรองแสงให้นุ่มนวลขึ้น พลางสายตาบางส่วนจากคนภายนอก และส่งเสริมบรรยากาศของห้องให้ดูสวยขึ้นอีกด้วย